เลเซอร์ริดสีดวง….ตัวช่วยไม่ต้องทนเจ็บ

ไขมัน พระเอก หรือ ผู้ร้าย
February 14, 2022
นอนดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข
February 14, 2022

ริดสีดวงทวารโรคที่ไม่มีใครไม่รู้จัก หรือบางคนอาจเคยมีประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดทรมานจากริดสีดวงทวารด้วยซ้ำ ซึ่งความเจ็บปวดนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นเฉพาะในขณะที่โรคดำเนินไปเท่านั้น แต่การรักษาแบบเดิม ยังสร้างบาดแผลและความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้ป่วยทั้งในขณะรับการรักษาและหลังการรักษาอีกด้วย

การรักษาโรคริดสีดวงทวารในปัจจุบันมีอยู่หลายวิธี เช่น การรักษาด้วยวิธีฉีดยาที่หัวริดสีดวง (Selerotherapy) หรือวิธีรัดยาง (Rubber Band Ligation) เพื่อให้หัวริดสีดวงฝ่อลง ซึ่งเหมาะกับริดสีดวงภายในที่อยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ในกรณีที่ริดสีดวง มีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น มีก้อนยื่นออกมาจากปากทวารหนัก ก้อนริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่ อาจร่วมกับการมีเลือดออกจากหัวริดสีดวง กรณีเหล่านี้ ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด แต่การที่มีแผลผ่าตัดอยู่ที่บริเวณปากทวารหนัก ทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก และต้องใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน ถือเป็นความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยอย่างยิ่ง

แต่ด้วยเทคโนโลยีการรักษาวิธีใหม่ จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายจากโรคนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด และไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทรมานจากการรักษา นั่นก็คือ การรักษาริดสีดวงทวารด้วยเลเซอร์

การนำเลเซอร์มาใช้ในการรักษาริดสีดวงทวารเป็นการใช้พลังงานจากเลเซอร์ประสิทธิภาพสูง เข้าไปทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติของริดสีดวง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นอีกทางเลือกในการรักษาที่ได้ผลดีและเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับริดสีดวงทวารภายในที่มีเลือดออกในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลั้นอุจจาระผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยสูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยที่ไวต่อความรู้สึกที่อาจจะทนอาการปวดแผลหลังจากการผ่าตัดริดสีดวงไม่ไหว

ขั้นตอนในการใช้เลเซอร์เพื่อรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มจากวิสัญญีแพทย์ให้ยาระงับความรู้สึกแก่ผู้ป่วย จากนั้นศัลยแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 2 มิลลิเมตร แล้วจึงสอดใยแก้วนำแสงเลเซอร์เข้าไปทางทวารหนัก ลอดใต้ริดสีดวงไปสู่ขั้วของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงริดสีดวงและกดปุ่มปล่อยพลังงานเลเซอร์เพื่อทำลายเส้นเลือด ให้เส้นเลือดบริเวณหัวริดสีดวงค่อยๆ ฝ่อและยุบลงในที่สุด การรักษาวิธีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดและเยื่อบุทวารหนัก ทำให้ผลข้างเคียงหลังการรักษาน้อยลงกว่าการผ่าตัดแบบเดิม ที่ผู้ป่วยอาจจะไม่สามารถควบคุมหรือกลั้นการขับถ่ายของตนเองได้ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด

ไม่ว่าจะเป็นการรักษาริดสีดวงทวารด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถการันตีว่าผู้ป่วยจะหายขาดจากโรคนี้ได้ โอกาสในการกลับมาเป็นริดสีดวงทวารซ้ำอีกนั้นขึ้นอยู่กัพฤติกรรมหลังการรักษาของผู้ป่วย สำหรับพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การเข้าส้วมเป็นเวลานานเนื่องจากทำกิจกรรมอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้สมาร์ทโฟนและอ่านหนังสือ เป็นต้น ถือเป็นสิ่งที่ผิดสุขลักษณะในการขับถ่าย ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยยังคงปฏิบัติกันเป็นกิจวัตรโดยไม่รู้ถึงความเสี่ยงที่อาจนำพาโรคมาถึงตัวได้

สำหรับข้อดีของการรักษาริดสีดวงทวารด้วยเลเซอร์ คือ ผู้ป่วยจะเจ็บแผลน้อยลง แผลหายเร็วขึ้น และใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1 – 2 วันเท่านั้น ในขณะที่การผ่าตัดจะใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 7 – 10 วัน แม้ว่าการรักษาริดสีดวงทวารด้วยเลเซอร์จะมีข้อดีที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นในหลายๆประการ แต่โอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำภายหลังเลเซอร์มีอัตราสูงกว่าการผ่าตัดวิธีเดิม

 

วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคริดสีดวงทวารว่า ควรเริ่มต้นด้วยการดูแลเรื่องระบบขับถ่ายให้ถูกสุขลักษณะ หมั่นสังเกตความผิดปกติจากการขับถ่าย เช่น หากถ่ายเป็นเลือด ควรสงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคริดสีดวงทวาร ให้รีบมาพบแพทย์และรับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อไม่ให้โรคดำเนินไปจนถึงภาวะรุนแรงที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งไม่ควรใช้สมาร์ทโฟน หรืออ่านหนังสือเพื่อฆ่าเวลาในขณะขับถ่ายเพราะจะทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวนเนื่องจากร่างกายใช้เวลาในการขับถ่ายนานเกินกว่าปกติ ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำในผู้ป่วยที่เคยรับการรักษาแล้วด้วย

 

Buy now