5 ปลาโปรตีนสูงลดหุ่น

อาหารประเภทโปรตีนมีความจำเป็นและสำคัญมาก โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อปลา เพราะในเนื้อปลามีโปรตีนดีและย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์อื่น และเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง ควบคุมอาหาร ไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้สูงอายุเพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้นอนหลับสนิท ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันและช่วยบำรุงสมอง

ลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร นอกจากจะควรเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ไม่สูงมากแล้ว อาหารนั้นจะต้องให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและมีส่วนช่วยทำให้การลดน้ำหนักเร็วขึ้น โดยอาหารที่เหมาะอย่างมากและหลาย ๆ คนเลือกกินหนึ่งในนั้นคือ “ปลา” ซึ่งจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร และจะมีปลาอะไรบ้าง เราไปอ่านบทความนี้กันเลย

ปลามีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักอย่างไร

1. แคลอรี่ต่ำปลาเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ จึงทำให้กินในปริมาณมากก็จะไม่เสี่ยงทำให้อ้วน
2. โปรตีนสูงปลาที่ให้โปรตีนสูงจะช่วยร่างกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น กล้ามเนื้อนั้นจะเปรียบเสมือนเตาเผ่าไขมัน เพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกาย ทำให้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้นั่นเอง
3. วิตามินดีมีสำคัญมากต่อการลดไขมัน และสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง มีส่วนช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูก และมวลกล้ามเนื้อ
4. กรดไขมัน Omega-3 (โอเมก้า 3) สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้หลายทาง ช่วยในการลดความหิวและความอยากอาหาร โดยมีงานวิจัย จากอาสาสมัครกลุ่มที่ได้รับมากกว่า 3 กรัมต่อวัน ทำให้รู้สึกอิ่มหลังอาหารไปนานถึง 2 ชั่วโมง

5 ปลา โปรตีนสูง ไขมันต่ำ

1. ปลาแซลมอน (Salmon) 

เป็นปลาที่ได้รับความนิยม ทั้งคนรักสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือแม้แต่คนทั่วไป โดยแซลมอนจะถูกนิยมนำมากินเพื่อลดน้ำหนักเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากในปลาแซลมอนมีแคลอรี่ต่ำ โดยปลาแซลมอน 100 กรัม ให้พลังงาน 136 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินดี 110% โปรตีนสูงถึง 21.3 กรัม และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 1.9 กรัม

นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงมาก  ๆ โดยแซลมอน 100 กรัม ที่เลี้ยงในฟาร์มจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 มากถึง 2.3 กรัม และปลาแซลมอลแบบธรรมชาติ จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงกว่า ที่ 2.6 กรัม ซึ่งเมื่อปริมาณกรดไขมัน Omega-3 นั่นก็คือ EPA และ DHA ที่แนะนำต่อวัน จะอยู่ที่ 0.5-4.5 กรัมต่อวัน ในปริมาณ ทำให้การกินแซลมอนจะช่วยอยู่ท้องนานนั่นเอง

2. ปลาทูน่า (Tuna)

ปลาทูน่าเป็นปลาที่มีแคลอรี่น้อยมาก ๆ โดยจะมีขายทั้งแบบสดและแบบทูน่ากระป๋อง สำหรับใครที่ต้องการใช้แบบกระป๋องให้เลือก “ปลาทูน่าในน้ำแร่” เพราะในน้ำเกลือจะมีโซเดี่ยมสูง ทำให้ตัวบวมได้ โดยปลาทูน่าในน้ำแร่ 1 เสิร์ฟ หรือ 28 กรัม จะให้พลังงานแค่ประมาณ 24 แคลอรี่  ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ยังมีโปรตีน 6 กรัม

3. ปลาแมคเคอเรล (Mackerel) 

ปลาแมคเคอเรล หรือ “ปลาทู” เป็นปลาที่จะพบได้ในบริเวณพื้นที่ทะเลน้ำเค็ม โดยปลาแมคเคอเรล 100 กรัม จะให้พลังงานแค่ 261 แคลอรี่เท่านั้น และมีโปรตีนสูงถึง 24 กรัม ที่สำคัญยังเป็นโปรตีนที่ย่อยได้ง่าย จึงทำให้ร่างกายสามารถนำโปรตีนไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อที่เป็นส่วนช่วยการเผาผลาญ นอกจากนี้ โปรตีนในเนื้อปลาแมคเคอเรลยังมีกรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายสูงหลายชนิด  โดยเฉพาะกรดไลโนเลอิค ช่วยการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และไตรกรีเซอไรด์ในร่างกายช่วยลดอาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด

4. ปลาซาร์ดีน

เป็นปลาที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก คล้าย ๆ กับปลาแมคเคอเรล แต่ปลาซาร์ดีนเนื้อละเอียดกว่า ตัวเล็กกว่า และมีกลิ่นคาวทะเล โดยเนื้อปลาซาร์ดีน 100 กรัม จะให้พลังงานแค่ 185 แคลอรี่ และมีโปรตีนสูงถึง 20.86 กรัม นอกจากนี้ ยังมีโอเมก้า 3 สูงถึง 2 กรัม

5. ปลาดอลลี่(Pangasius Dory)

ปลาดอลลี่ประมาณ 100 กรัม จะให้พลังงาน 95 กิโลแคลอรี่ มีโปรตีนถึง 13 กรัม พร้อมการให้ประโยชน์ที่อุดมไปด้วยทั้งวิตามินและโอเมก้า 3 รวมไปถึงแคลเซียมและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

ข้อมูลจาก : www.apexprofoundbeauty.com