5 เทรนด์ยอดฮิตเพื่อความขาวใส

 “โลหะหนัก” อันตรายที่คาดไม่ถึง
January 16, 2022
Probiotic ดียังไง
January 25, 2022

หากพูดถึงเทรนด์ของผลิตภัณฑ์เสริมความงานที่ฮอตอิตตลอดกาลสำหรับผู้หญิงแล้ว คงหนีไม่พ้นเทรนด์ “ผิวสวยกระจ่างใส” หรือ “ผิวขาว” เป็นแน่ แล้วอาหารเสริมยอดฮิตอะไรกันที่เป็นที่ต้องการ และนิยมใช้เพื่อให้ผิวของเรากระจ่างใสขึ้น ลองไปดูกันกับ 5 อาหารเสริมยอดฮิตเพื่อความขาวใส

  • Lycopene (ไลโคปีน)

เป็นสารสีประเภทแคโรทีนอยด์ มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UV โดยการสะท้อน หรือลดการดูดซับแสง UV เข้าสู่

ชั้นผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดความหมองคล้ำ และป้องกันการเกิดริ้วลอยก่อนวัยอันควร ตลอดจนช่วยกระตุ้น

การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายช่วยให้ผิวแลดูขาวอมชมพูได้อีกด้วย ไลโคปีนเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์

ขึ้นเองได้ ซึ่งมักพบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม จนถึงแดง เช่น แครอท มะละกอ มะเขือเทศ เป็นต้น นอกจากนี้

ในการศึกษายังพบว่าในเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวปริมาณมีไลโคปีนสูงกว่าในมะเขือเทศถึง 70 เท่า แต่สำหรับฟักข้าวของไทย

จะมีปริมาณไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศเพียงแค่ 12 เท่า เท่านั้น

 

  • Grape seed Extract (สารสะกัดจากเมล็ดองุ่น)

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidant) เนื่องจากในเมล็ดองุ่นมีสารที่ชื่อว่า OPCs ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เคลื่อนที่ได้เร็วและมีอนุภาพสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า จึงช่วยในการคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ อีกทั้งช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส เพราะ OPCs สามารถช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินที่มีมากเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระ ฝ้า และความหมองคล้ำบนผิวหน้าได้

  • L-Glutathione (แอลกลูตาไทโอน)

เป็นกรดอะมิโนสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosenase ส่งผลให้เม็ดสี เมลานินไม่ถูกสร้างขึ้น จึงทำให้ลดสาเหตุของการเกิดกระ, ฝ้า และจุดด่างดำได้ด้วย และเนื่องจากสารชนิดนี้มักพบในตับ จึงมีข้อมูลที่พบว่าผู้ที่มีสภาพการทำงานของตับบกพร่อง หรือรับประทานแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมทั้งผู้ป่วยโรคตับอักเสบและตับแข็ง จะพบแอลกลูตาไทโอนในตับน้อยลงและไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ จึงจำเป็นต้องได้รับเสริมเข้าไปโดยตรงจากแหล่งอาหารอื่นๆ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บางชนิด รวมทั้งที่อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

 

  • Vitamin C (วิตามินซี)

เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง ทำหน้าที่เป็นตัวช่วย (Cofactor) ในกระบวนการต่างๆ ของร่างกาย เช่นช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ชั้นผิวหนังไม่หย่อนคล้อย และจากการศึกษายังพบว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยในการทำงานของกลูตาไทโอนให้เพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการถูกแดดเผามากขึ้นถึง 20 % ทำให้โอกาสการเกิดผิวอักเสย และเสียหายจากการถูกแดดเผาจะลดน้อยลง โดยวิตามินซีสามารถรับทานเวลาใดก็ได้ แต่ควรทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อีกทั้งยังควรเลือกวิตามินซี ที่มีปริมาณมากเพียงพอในการบำรุงผิวพรรณ นั้นก็คืออย่างน้อยวันละ 1000 – 2000 มิลลิกรัม ขึ้นไป

  • Ceramide (เซราไมด์)

เป็นโครงสร้างหลักที่สำคัญของชั้นหนังกำพร้าที่ ทำให้หนังกำพร้ามีความแข็งแรงและป้องกันสิ่งต่างๆ ได้ดี และยังมี

บทบาทในการทำให้ผิวหนังสามารถอุ้มน้ำ และรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับว่า การลดลงของระดับเซราไมด์ เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น นอกจากนี้เซราไมด์ยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี และยัง ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้วหากสาวๆ คนไหนอยากมีผิวสุขภาพดี กระจ่างใส คงต้องศึกษาคุณสมบัติและปริมาณของสารแต่ละชนิดที่ร่างกายต้องการอย่างถ้วนถี่มากขึ้น เพราะหากได้รับปริมาณสารเกินความจำเป็นแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพแทนได้

Buy now