ไขมันทรานส์ 0% ทานแล้วปลอดภัยแน่หรือ

หากพลิกดูฉลากโภชนาการในขนมขบเคี้ยวหรือเบเกอรี่ มักจะระบุเอาไว้ว่า “ไขมันทรานส์ 0%” ก็อดชวนสงสัยไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วจะเป็นไปตามที่เขียนไว้ในฉลากหรือไม่ มีความปลอดภัยแค่ไหน และเราควรจะหลีกเลี่ยงการรับไขมันทรานส์ไม่ให้มากเกินอย่างไร

ก่อนอื่นมารู้จักกับไขมันทรานส์ (Trans Fat) หรือกรดไขมันทรานส์ (Trans Fat Acid) ซึ่งเกิดขึ้นเพราะต้องการทำให้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันไม่อิ่มตัว มีสภาพอิ่มตัวขึ้น โดยเติมไฮโดรเจนทำให้มีสภาพเป็นของกึ่งเหลว ไม่เป็นไข หืนช้า และเก็บรักษาได้นานขึ้น แต่พบว่าการบริโภคไขมันทรานส์ส่งผลให้คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL – Cholesterol) และไตรกรีเซอไรด์เพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกลับทำให้คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesterol) ลดลง กลายเป็นว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด จึงมีการแนะนำให้หลีกเลี่ยง ทำให้พบว่าผลิตภัณฑ์หลายชนิดมีข้อความบนฉลากระบุว่า “ไขมันทรานส์ 0%” นั่นเอง

แต่ทว่าอาหารที่ฉลากโภชนาการแสดงค่าไขมันทรานส์ 0% หรือปราศจากไขมันทรานส์นั้น อาจจะมีไขมันทรานส์อยู่ แต่ที่ระบุเอาไว้เช่นนั้นได้ ก็เพราะมาจากหลักการปัดตัวเลข

โดยอาหารที่มีไขมันทรานส์น้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค สามารถแสดงค่าเป็น 0 ได้ จึงอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าอาหารนั้นไม่มีไขมันทรานส์อยู่เลย ตัวอย่างเช่น เบเกอรี่แสดงค่าไขมันทรานส์เป็น 0% แต่อาจจะมีไขมันทรานส์ 0.45 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ฉะนั้นหากกินไป 3 หน่วยบริโภค จะได้รับไขมันทรานส์ที่ 1.35 กรัม ซึ่งไม่ได้เป็น 0 ตามที่ฉลากระบุไว้

ดังนั้นถ้าผู้บริโภคต้องการหลีกเลี่ยงการได้รับไขมันทรานส์ มีข้อแนะนำเอาไว้ว่า ให้ลดการกินขนมอบและเบเกอรี่ โดยเฉพาะโดนัท, ครัวชองต์, พัฟ, พาย, ขนมปังกรอบ, ขนมปังหน้าเนยเทียม, เค้กหน้าครีม และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเนยขาว มาร์การีน และครีมเทียม รวมทั้งหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ไขมันดัดแปลงด้วยวิธีการไฮโดรเจเนชั่น ทั้งนี้ ในแต่ละวันนั้นไม่ควรบริโภคไขมันทรานส์เกินวันละ 2 กรัม