“ยาคุมฉุกเฉิน”  ใช้ยังไงให้ปลอดภัย

ดื่มน้ำน้อย ระวัง “นิ่วต่อมน้ำลาย”
March 30, 2022
ยาแก้ลืม
April 10, 2022

“ยาคุมฉุกเฉิน” ชื่อบอกชัดเจนแล้วว่าคือยาคุมกำเนิดที่นำมาใช้ในกรณี “ฉุกเฉิน” ซึ่งยาคุมชนิดนี้มีตัวยาสำคัญกลุ่มเดียวกับยาคุมกำเนิดธรรมดา แต่จะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่า ต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนด

ยาคุมชนิดนี้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้เพื่อการคุมกำเนิดในระยะยาวหรือใช้บ่อยๆ เนื่องจากปริมาณยามีขนาดสูง อาจเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงได้ กรณีฉุกเฉิน หมายความถึง การมีเพศสัมพันธ์ในคู่สามีภรรยา ที่มีการวางแผนครอบครัว และทำการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่เกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ เช่น การรั่วหรือฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป หรือใช้ในกรณีผู้หญิงที่ถูกข่มขืน เป็นต้น

 

“ยาคุมฉุกเฉิน” ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยตัวยาฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel)  ขนาดสูง เม็ดละ 750 ไมโครกรัม จำหน่ายเป็นกล่อง มียากล่องละ 1 แผง บรรจุยาคุมฉุกเฉิน 2  เม็ด การรับประทานยาที่ถูกต้องคือ รับประทานยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง และจะต้องรับประทานยาเม็ดที่สองหลังจากรับประทานยาเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง โดยหากรับประทานยาเม็ดแรกได้เร็ว ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะยิ่งสูง การรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง  จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด ในกรณีที่มีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา  ต้องรับประทานยาเม็ดนั้นใหม่  มีคำแนะนำด้วยว่า สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด พร้อมกันในครั้งเดียวได้ โดยที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างจากการแบ่งรับประทานเป็น 2 ครั้ง ซึ่งการรับประทานเพียงครั้งเดียว จะมีความสะดวกมากกว่าการแบ่งยารับประทาน แต่ในบางรายอาจพบอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการรับประทานยาเพียงครั้งเดียวมากกว่าการแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินมักเป็นอาการที่ไม่รุนแรง เช่น ประจำเดือนมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนหัว เจ็บคัดเต้านม ซึมเศร้า วิตกกังวล เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ มีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างเดือน อาการข้างเคียงเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา การรับประทานในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เป็นอันตราย  หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วจะมีประจำเดือนหลังจากรับประทานยาภายในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ (หากไม่มี ให้สงสัยว่าตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์) หลังจากนั้นประจำเดือนของรอบเดือนนั้นจะมาในช่วงเวลาเดิม ในบางรายอาจพบประจำเดือนรอบต่อไปมาช้าหรือเร็วกว่าปกติได้

การใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ นอกจากประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติชนิดเม็ดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกถึง 2% ดังนั้นการใช้ยานี้จึงควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และไม่แนะนำให้รับประทานเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง/เดือน

 

โดยสรุปคือ ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ผลิตคิดค้นออกมาเพื่อใช้ป้องกันการตั้งครรภ์เฉพาะในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่มีการวางแผนที่จะมีเพศสัมพันธ์และยังไม่ต้องการมีบุตร สามารถเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยต่อผู้ใช้มากกว่า เช่น การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบที่รับประทานติดต่อกันทุกวัน การใช้ถุงยางอนามัย การใส่ห่วงอนามัย การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฝัง, ชนิดแผ่นแปะ เป็นต้น ที่สำคัญก่อนใช้ยาทุกครั้ง โดยเฉพาะยาคุมฉุกเฉินควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

Buy now