“ทิชชู่เปียก” สิ่งจำเป็นยุค New Normal

ในยุค New Normal แบบนี้ “ทิชชู่เปียก” ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดร่างกายที่หลายคนเลือกใช้ เนื่องจากส่วนใหญ่เชื่อว่าสามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าทิชชู่ธรรมดา  แถมพกพาง่าย และมีที่ปิดล็อคกันเชื้อโรคได้ดี  แต่รู้หรือไม่ว่าทิชชู่เปียก หากไม่รู้จักวิธีใช้และเก็บรักษาให้ดีก็เป็นที่สะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน

รู้จัก…ทิชชู่เปียก

ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวกาย หรือทิชชู่เปียก ทำมาจากผ้าชนิดที่ไม่มีการถักทอตามลักษณะโดยทั่วไป แต่เกิดจากการยึดติดกันของเส้นใยโดยการใช้สารเคมี และยึดโดยการใช้ความร้อน อัดติด ด้วยกระบวนการทางเคมีเชิงกล ความร้อน  สารละลาย  หรือหลายๆ อย่างรวมกัน  มีคุณสมบัติเป็นผ้าที่มีผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม ดูดซึมน้ำและของเหลวได้ดี น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่น

เหตุผลที่ทิชชู่เปียก ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ใช้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าใช้แค่กระดาษทิชชู่ธรรมดา เนื่องจากผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีส่วนประกอบหลักคือ “น้ำ” ทำให้เวลาที่เช็ดทำความสะอาดนอกจากคราบสกปรกจะถูกเช็ดออกได้หมดจดมากกว่าแล้ว ยังทำให้ผิวของผู้ใช้รู้สึกชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของสารลดแรงตึงผิว สารฆ่าเชื้อโรค สารที่ช่วยบำรุงผิว จึงอาจทำให้ผู้บริโภคมั่นใจและนิยมมากกว่ากระดาษทิชชู่ธรรมดา

แต่การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของสารเคมีในกลุ่มของสารที่ใช้ฆ่าเชื้อ (แอลกอฮอล์ และกลุ่ม Antiseptics หรือสารเคมีที่ใช้ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่อยู่ภายนอกร่างกาย) แม้ว่าจะเป็นสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ เพราะผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่เป็นอันตราย  แต่ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาการแพ้จากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงอาจเกิดขึ้นได้

เลือกใช้ทิชชู่เปียกให้ปลอดภัย

                                    ทิชชู่เปียก จัดอยู่ในกลุ่มของเครื่องสำอาง ต้องมีการจดแจ้งเพื่อผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายกับทางสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากภาษาไทยชัดเจนครบถ้วน มีเลขที่ใบรับแจ้ง รวมถึงระบุผู้ผลิตชัดเจน และควรสังเกตหากใช้แล้วมีอาการแพ้ เป็นผื่นแดง บวม อักเสบ ต้องหยุดใช้ทันที

 เลือกซื้อและใช้อย่างปลอดภัย โดยดูฉลากระบุผู้ผลิต/นำเข้า ส่วนผสม ไม่มีกลิ่นและสีที่ผิดปกติ และต้องเก็บไว้ในที่แห้งเย็น

 ควรใช้ให้ถูกวิธีและปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลาก เช่น ไม่ควรเช็ดรอบดวงตา และไม่ทิ้งลงโถส้วมหรือชักโครก เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันในท่อน้ำ

 การอ้างว่า ผ่านการทดสอบโดยสถาบันหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวนั้น อย่าได้วางใจ 100% เพราะผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน โอกาสที่จะเกิดอาการแพ้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ถือว่ามีความเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นควรใช้อย่างระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำเตือน เมื่อเกิดอาการแพ้ต้องหยุดใช้ทันที

ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกใช้วิธีทำความสะอาดแบบธรรมดาอย่างการใช้สบู่และน้ำสะอาดจะดีกว่า เพราะนอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดขยะได้อีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงความสะดวกในการพกพาที่ต้องออกไปข้างนอก ก็สามารถใช้ทิชชู่เปียกเป็นตัวช่วยเพิ่มเติมจากเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยที่จะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ได้ด้วย และทิชชู่เปียกเองนั้นถ้าจะให้ดีควรเลือกประเภทสำหรับการใช้ด้วย เช่น ทิชชู่เปียกผสมแอลกอฮอล์สำหรับทั่วไป, สำหรับเด็กอ่อน หรือสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งปัจจุบันนี้มีให้เลือกซื้อมากมายอีกด้วย