ติดมือถือ อาการหนักกว่ายาเสพย์ติด…ไปซะแล้ว

กระหม่อม….จุดบอบบางที่สุดของทารก!
July 20, 2020
ทิพยประกันภัย ห่วงใยเป็นที่สุด ลงพื้นที่ช่วยเหลือช่วยพี่น้องผู้ประสบภัยจากพายุซินลากู จ.เลย
August 5, 2020

ติดมือถือ อาการหนักกว่ายาเสพย์ติด…ไปซะแล้ว

 

เดี๋ยวนี้เริ่มเห็นข่าวเด็กๆ ที่กรีดร้อง คลุ้มคลั่งเพราะไม่ได้เล่นมือถือ…มากขึ้นเรื่อยๆ 

 

คุณพ่อ-คุณแม่อย่าคิดว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับลูกเราแน่ๆ ลูกเราอาจจะเริ่มป่วยแล้วก็ได้นะ โรคที่ว่าคือ “โรคติดโทรศัพท์มือถือ” หรือ “โนโมโฟเบีย(Nomophobia) มาจากคำว่า “no mobile phone phobia” ซึ่งจัดเป็นโรคจิตเวชประเภทนึง ใช้เรียกอาการที่วิตกกังวลเพราะขาดมือถือ, อยู่ในที่ที่ไม่มีเน็ต ไม่มีสัญญาณมือถือ, ถ้าแบตมือถือหมดจะหงุดหงิดมาก ถ้าอาการหนักมากๆ ถึงขั้นแสดงออกทางร่างกายได้ เช่น เครียด เหงื่อออก ตัวสั่น คลื่นไส้

 หงุดหงิด คลุ้มคลั่ง ตาขวาง กรีดร้อง

 

ลองสังเกตดูนะว่าลูกเราเริ่มมีอาการแบบนี้หรือไม่?

  • พกมือถือตลอดเวลา ไม่ห่างตัว
  • เปิดสัญญาณเน็ตตลอดเวลา
  • ก้มหน้าก้มตาอยู่หน้าจอ ไม่พูดคุยกับเพื่อนหรือใครที่อยู่ตรงหน้าเลย แต่พูดคุยทางออนไลน์แทน
  • ตื่นมาก็เช็คมือถือ มองแต่หน้าจอตลอดเวลา ก่อนนอนก็เช็คโซเซียลตลอด
  • ใช้มือถือนานๆ จนไม่ทำกิจกรรมอย่างอื่น
  • พูดตักเตือนบ่อยครั้งก็ยังไม่วางมือถือ
  • ก่อนกินอะไรก็ต้องถ่ายรูป อัพรูปตลอด
  • ถ้าได้ยินเสียงเตือนจากมือถือ จะรีบหยุดภารกิจตรงหน้า
  • ถ้าไม่ให้ใช้มือถือ ก็จะแสดงท่าทางไม่มีสมาธิ ลุกลี้ลุกลน
  • เล่นโทรศัพท์ตลอดไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรอยู่ เช่น ระหว่างกินข้าว เข้าห้องน้ำ ขึ้นรถ 
  • หากวางมือถือผิดที่ หรือหาไม่เจอจะตื่นเต้น ตกใจมาก

โรคแบบนี้ถ้าไม่รีบแก้ไข จะยิ่งเป็นมากขึ้น และอาการจะแย่ลงเรื่อย จนทำให้มีโรคอื่นๆ ตามมา เช่น

  • นิ้วล็อก
  • ตาเสื่อม
  • หมอนรองกระดูกเสื่อม
  • โรคอ้วน
  • ปวดศีรษะ ไมเกรน

 

ถึงแม้ว่ามือถือจะมีความจำเป็นมากในโลกปัจจุบันก็ตาม เพราะทุกอย่างในชีวิตอยู่ในมือถือกันหมดแล้ว เราก็ต้องตั้งกฎเกณฑ์ และสอดส่องดูแลพฤติกรรมการใช้มือถือของลูกๆ อย่างใกล้ชิด และตัวพ่อแม่เองก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกๆ เห็นด้วย อย่าให้ถึงขั้นต้องเข้ารักษากับจิตแพทย์กันเลย…ลองปรับเปลี่ยตัวเองเสียใหม่ตั้งแต่ตอนนี้กันเถอะ

Buy now