กระดูกสันหลังของคนเรานั้นทำงานสัมพันธ์กันกับส่วนอื่นๆ เช่น หมอนรองกระดูก, โพรงประสาท, เส้นเอ็น และยังรวมไปถึงกล้ามเนื้อในบริเวณรอบๆ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ครอบคลุม
คำว่า “กระดูกทับเส้นประสาท” คืออาการโดยรวมที่กระดูกบริเวณด้านล่างหรือด้านบน เกิดการเคลื่อนตัวออกไปจากตำแหน่งปกติ แล้วไปรบกวนการทำงานของเส้นประสาท จึงทำให้สัญญาณประสาทไม่สามารถส่งไปถึงอวัยวะปลายทางได้ หรือเรียกตามภาษาของไคโรแพรคติกได้ว่า “Subluxation” ซึ่งในทางการแพทย์แผนปัจจุบันจะกล่าวถึงอาการ Subluxation เพียงแค่ว่า กระดูกเกิดการเคลื่อนที่เท่านั้น แต่ไม่ได้พูดถึงการรบกวนเส้นประสาทด้วย จึงทำให้เมื่อพูดถึงเส้นประสาทเกิดการถูกรบกวน และหมอนรองกระดูกที่ดูเหมือนจะมีความใกล้เคียงกับโพรงประสาทมากที่สุด ต้องตกเป็นจำเลยไปแทน
ไคโรแพรคติกมีหลักการทำงาน คือ จัดกระดูกเพื่อให้กระดูกกลับมาอยู่ในรูปที่ไม่ไปรบกวนการทำงานของเส้นประสาท เพราะหากเส้นประสาทปราศจากการรบกวนใดๆ แล้ว ร่างกายเราก็จะสามารถฟื้นฟูและป้องกันตัวเองจากโรคต่างๆ ได้เองตามธรรมชาติ รวมทั้งยังทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ และเต็มประสิทธิภาพด้วย
ถ้าถามว่า เพราะเหตุใดร่างกายเราจึงแข็งแรงได้จากการจัดการกับกระดูกทับเส้น คำตอบก็คือ เนื่องจากเส้นประสาทในร่างกายเราแต่ละเส้นทำหน้าที่ในการควบคุมอวัยวะปลายทางที่แตกต่างกันออกไป และหากกระดูกเกิดการเคลื่อนที่เข้าไปบดบังสัญญาณประสาทที่สั่งจากสมอง ทำให้สัญญาณประสาทไม่สามารถส่งไปยังอวัยวะต่างๆ ได้อย่างสะดวก เมื่อเป็นเช่นนี้เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้เกิดการเสื่อมของอวัยวะในส่วนนั้นๆได้ รวมไปถึงทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงขึ้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น “กระดูกทับเส้น” จึงไม่ใช่แค่โรคที่เกิดกับกระดูกสันหลังเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายเราได้อีกมาก และอาจรุนแรงจนเราคาดไม่ถึง
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าเรากำลังเผชิญกับอาการของโรคกระดูกทับเส้นหรือไม่ คือ สิ่งใดที่ร่างกายฟ้องว่าทำงานผิดปกติไปจากเดิมนั่นคืออาการของกระดูกทับเส้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอาการผิวแห้งผิดปกติในบางบริเวณ, อาการปวดจนกระทั่งมีอาการชา เป็นต้น ซึ่งควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาแนวทางในการจัดการกับกระดูกที่เป็นต้นเหตุของอาการเหล่านั้นต่อไป