“เคพกูสเบอรี่” ผลไม้ดี จากโครงการหลวง

 หลายคนq คงเคยได้ยินชื่อผลไม้แปลกๆ ชนิดหนึ่ง นามว่า “เคพกูสเบอรี่” ทำให้คิดไปว่าเป็นผลไม้เมืองนอกเมืองนา หากินยาก แต่ความจริงแล้ว เราสามารถซื้อหาผลไม้ชนิดนี้ได้ในเมืองไทย เพราะเคพกูสเบอร์รี่เป็นหนึ่งในผลผลิตจากงานส่งเสริมและพัฒนาไม้ผลขนาดเล็ก มูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งพื้นที่ๆ มีการปลูกผลไม้ชนิดนี้มากก็คือ บ้านขุนกลาง บนดอยอินทนนท์ โดยชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง

เคพกูสเบอรี่ มีชื่อเรียกภาษาไทยว่า โทงเทงฝรั่ง อยู่ในตระกูลเดียวกับพริก มะเขือ มะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ และพิทูเนีย รูปร่างเป็นผลกลมๆ เล็กๆ เมื่อสุกจะมีสีเหลืองอมส้ม โดยมีกลีบบางๆ เหมือนฟางข้าวห่อหุ้มอยู่ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถรับประทานได้ทั้งผลสด หรือนำไปคั้นเป็นน้ำดื่มก็ได้

ต้องบอกว่าภายใต้ลูกกลมๆเล็กๆนี้ อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาบอดในที่มืด ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมแล้ว เคพกูสเบอรี่ ยังถือเป็นแหล่งของวิตามินจากธรรมชาติอีกแหล่งหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะถูกค้นพบว่าประกอบไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) หลายชนิด ทั้งวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันไข้หวัด และภูมิแพ้, สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins), ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) และกรดฟีนอลิก (phenolic acids) ในปริมาณที่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ และยังมีรายงานการวิจัยที่พบว่าแอนโทไซยานินสามารถลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางประเภทได้ และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกได้อย่างชัดเจนด้วย

ในด้านคุณค่าทางโภชนาการของเคพกูสเบอรี่ หากเปรียบเทียบปริมาณที่ 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 54 กิโลแคลอรี่, น้ำ 85.90%, โปรตีน 1.50 กรัม, ไขมัน 0.50 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 11.0 กรัม และไฟเบอร์ 0.40 กรัม ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เคพกูสเบอรี่ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและควบคุมน้ำหนัก

เล่าเรื่องเคพกูสเบอรี่ หรือโทงเทงฝรั่ง มาเสียยืดยาว ขอย้อนกลับมาคุยเรื่องโทงเทงไทยกันสักเล็กน้อย

สำหรับโทงเทงไทยนั้น เรียกได้ว่าเป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่พบได้ตามสองข้างทาง ผลของมันมีขนาดเล็กกว่าโทงเทงฝรั่ง ทั้งยังมีรสชาติเฝื่อนและขม จึงนิยมนำไปทำเป็นยาสมุนไพรมากกว่าที่จะรับประทานเป็นผลไม้ ซึ่งสมัยก่อนหมอพื้นบ้านมักนำมาใช้เป็นสมุนไพรสำหรับรักษาโรค เช่น ใช้รักษาอาการทอนซิลอักเสบ โดยหมอพื้นบ้านจะใช้ทั้งต้นมาตำให้แหลก ละลายกับเหล้า แล้วเอาสำลีชุบน้ำยามาอมไว้ข้างแก้ม กลืนน้ำผ่านลำคอทีละน้อย แก้ทอนซิลอักเสบ หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำลายอักเสบได้ และยังใช้แก้อาการอักเสบในลำคอได้ดีด้วย

สรรพคุณของโทงเทง ได้ถูกบันทึกลงในตำรายาสมุนไพรไทยมากมายหลายประการ ทั้งสรรพคุณแก้โรคเบาหวาน, แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ, ขับปัสสาวะ, แก้ไอ, แก้เจ็บคอ, แก้ไข้, แก้ปวดศีรษะ, แก้บิดมีตัว, แก้พิษ, ขับพยาธิในลำไส้, แก้ฟกช้ำ, แก้บวมน้ำ และแก้ปวดหู หากใช้ทั้งต้น จะช่วยรักษาดีซ่าน ไอหืดเรื้อรัง เจ็บคอ แผลมีหนอง, ส่วนราก ใช้ขับพยาธิ และรักษาโรคเบาหวาน

จะเห็นได้ว่า ทั้ง เคพกูสเบอรี่ (โทงเทงฝรั่ง) และโทงเทงไทย ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากเรารู้จักเลือกหยิบมาใช้ เชื่อว่าจะมีสุขภาพดี จนอาจไม่ต้องพึ่งหมอพึ่งยาเคมีกันเลย